การทำบุญที่มาพร้อมกับความหลอน
งานสายบุญ ที่ ควบคู่ความหลอนและชวนให้สงสัย
ผู้เข้าชมรวม
81
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
พนักงานบริษัท อย่างเราๆ ทั้งหลาย นานทีปีหน จะมีโอกาสได้ทำบุญทำทาน กับเค้าสักครั้ง มันเป็นอะไรที่อิ่มอกอิ่มใจ เพราะว่าแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องดูแล ทั้งการงาน ครอบครัว ไหนจะหนี้สินอีก แต่อย่างว่าครับ เมื่อตั้งใจไว้แล้ว เราก็อยากจะทำ ผมและเพื่อนๆ ได้นัดแนะกันว่า เราจะไปทำบุญกันที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จังหวัดนครนายก เมื่อถึงวัน ก็จัดเตรียมอาหารเพื่อถวายเพล และ ปัจจัย อีกจำนวนหนึ่งที่เราได้รวบรวมกันมาเป็นเวลา 3 เดือน ในที่สุดเราก็ได้ออกเดินทางกันมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครนายก โดยใช้เส้นทางถนน สุวินทวงศ์ วิ่งมุ่งหน้าไปบางน้ำเปรี้ยว และต่อด้วย องค์รักษ์ ก่อนที่จะวิ่งยาวๆ เข้าสู่ตัวเมืองนครนายก ซึ่งระหว่างทาง เหมือนมีอะไรบางอย่างดลใจ ซึ่งผมไม่รู่ว่าเพื่อนคนอื่นที่ขับมอไซค์คันอื่นๆ คิดเหมือนกันหรือเปล่า อีก 9 คันที่ขับตามๆกันมา เพราะว่าระหว่างทางนั้น เราเจอแยกที่มีสัญญาณไฟจราจรมากมา แต่ทุกครั้งที่เราจะผ่านแยก ไฟมันเขียวตลอดทุกแยกแบบบังเอิญเกินไปหรือเปล่า ซึ่งในใจของผมคิดว่า การที่เราเดินทางในครั้งนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เปิดทางให้เราได้เดินทางอย่างสบาย ไม่ติดขัดอะไร ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างว่าแหละครับ มันบังเอิญขนาดนั้นเลยหรือ ที่เราผ่านแยะมาเกือบ 10 แยก เราไม่เจอไฟแดงเลยแม้แต่แยกเดียว แต่เอาเถอะ เก็บความคิดไว้ก่อน ในที่สุดเราก็เดินทางถึง จังหวัดนครนายก และได้มุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมายของเรา นั่นคือสำนักสงฆ์ นั่นเอง ซึ่งเราก็เดินทางตามที่ หลวงพ่อได้ส่งโลเคชั่นให้ แต่เมื่อเราไปถึงตามโลเคชั่นนั้น กลับไม่เจอป้าย หรือทางเข้าสำนักสงฆ์เลย เราเดินทางมากัน 10 คันด้วยรถมอไซค์ แต่ทุกคนที่มาด้วยกัน ไม่มีใครเห็นป้ายหรือทางเข้าสำนักสงฆ์แห่งนี้แม้แต่คนเดียว สองข้างทางปกคลุมไปด้วยป่าเขา และหญาที่ขึ้นรกเต็มไปหมด ผมตัดสินใจโทรหาหลวงพ่อ เมื่อหลวงพ่อรับสาย ผมก็ได้เอ่ยถามหล่วงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมาถึงตามโลเคชั่นที่หลวงพ่อส่งให้แล้ว แต่ไม่เห็นทางเข้าหรือป้ายสำนักสงฆ์เลยครับ แต่สิ่งที่หลวงพ่อตอบกลับ มันทำให้พวกผมประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะหลวงพ่อตอบมาว่า อาตมา เห็นพวกโยมแล้วนะ โยมลองทำใจให้สงบ และลองหันหลังกลับ เมื่อโยมจิตใจสงบแล้ว โยมจะเห็นทุกอย่างเอง ในใจผมคิด เห้ย …. นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็ลองทำตามที่หลวงพ่อบอก ปรากฏว่า ทางเข้าอยู่ข้างหลังเรานี่เอง ผมสาบานเลยนะ พวกผมไม่เห็นจริงๆ ว่ามีทางเข้า สำนักสงฆ์แห่งนี้เลย มีแต่ป่าสองข้างทาง นั่นทำให้บรรยากาศตอนนั้น หลอนขึ้นมาทันที แต่เมื่อมาถึงที่แล้ว ก็ต้องเอาให้สุด เราได้ขับรถเข้าสำนักสงฆ์ และได้ซึมซับบรรยากาศ บริเวณโดยรอบ ทรุดโทรมอย่างมาก ต้องบูรณใหม่ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่า ในที่ป่าเขาแบบนี้ มีสำนักสงฆ์มาตั้งอยู่ได้ยังไง โดยรอบๆ มีแต่ป่า ไม่มีบ้านคนเลย เมื่อจอดรถ เราก็ทำภารกิจ ถวายเพล และปัจจัย ให้หลวงพ่อ หลวงพ่อก็ให้ศีลให้พร เราก็อิ่มเอมใจปนกับความสงสัย ผมเองอยากจะถามแต่ก็กลัวเสียมารยาท ช่างเถอะไหนๆ เราก็ได้มาทำบุญแล้ว อย่าคิดมาก เมื่อเราจะกลับ หลวงพ่อก็บอกว่า โยมเข้ามายังไง ก็ออกไปอย่างนั้นนะ เอาอีกล่ะ คืออะไรเนี่ย และก็เหมือนเดิมเลยครับ พวกเราหาทางออกไม่เจอ จนสุดท้ายนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อ ผมเลยหลับตา ทำใจให้สงบลง พอลืมตาขึ้น ทางออก อยู่ตรงหน้าเฉย หลอนสิครับ รีบขับออกอย่างไวเลย พอสมาชิกทั้งหมดมารวมตัวหน้าทางเข้าสำนักสงฆ์ครบแล้ว เราก็เดินทางกลับบ้านกันเพื่อพักผ่อนทันที แต่ด้วยความสงสัยของผม เลยได้มองกระจกหลัง ปรากฎว่า ทางเข้าสำนักสงฆ์ ได้หายไปอีกแล้ว เลยได้แต่คิดในใจว่า ถ้าใจเราสงบ เราจะเห็นสิ่งต่างๆ ที่เรา ไม่เคยเห็น ทุกคำที่ผมคิด มันมาจากสิ่งที่หลวงพ่อ ได้พูดไว้ทุกคำ และผมสัญญา ว่าผมและเพื่อนๆ จะกลับไปที่นั่นอีกแน่นอน เพราะมันคือสถานที่ที่ พิเศษมากสำหรับผม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Siripong0044 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Siripong0044
ความคิดเห็น